Login Name:
Password:
Language :
Remember

 

 


 


ตอนที่ 8 ปล้นแบงค์
 

 

ในขณะที่นักข่าวสาวพรหล้ากำลังสัมภาษณ์ 3 หนุ่มผู้ต้องสงสัยอยู่นั้น ในเวลาเดียวกัน  ธนาคารชราต้อ ถนนอ่อนละมัย เวลาใกล้เที่ยงผู้คนในธนาคารกำลังพลุกพล่าน มีลูกค้าเข้าออกอยู่ตลอดเวลา พนักงานรักษาความปลอดภัยเป็นลูกหลานอีสานบ้านเฮา ชื่อนายมะห่ำ มักโจ๊ก ผู้ซึ่งชอบกินโจ๊กเป็นชีวิตจิตใจ กำลังกระสับกระส่าย สมองครุ่นคิดหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง คอยมองนาฬิกาอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มงานตอนเช้า

นายมะห่ำ เป็นพนักงานของบริษัทรักษาความปลอดภัยของเอกชนแห่งหนึ่ง ปกติทำงานเป็นบอดี้การ์ดคอยให้การอารักขาคุ้มครองผู้บริหารระดับสูงของบริษัทและหน่วยงานต่างๆที่สำคัญ  แต่ธนาคารแห่งนี้จ้างมาเป็นพิเศษด้วยรายได้ที่ทั้งบริษัทและตัวนายมะห่ำเองปฏิเสธไม่ลง เนื่องจากธนาคารแห่งนี้มีสถิติถูกปล้นมากที่สุดสร้างความเสียหายให้กับธนาคารอย่างมาก ซึ่งก็คุ้มค่าสมราคาเพราะตั้งแต่ว่าจ้างนายมะห่ำมาประจำการ ด้วยปฏิภาณไหวพริบ ฝีมือ บวกกับความบ้าระห่ำของเขา ปรากฏว่าไม่เคยมีโจรที่ไหนสามารถปล้นธนาคารแห่งนี้ได้สำเร็จสักรายเดียว

 

นายมะห่ำนึกถึงภาพตอนเช้าก่อนออกจากบ้านขณะที่กำลังนั่งส้วมอยู่ก็ได้ยินเสียง เอะอะตึงตัง ในบ้าน พอออกจากห้องน้ำออกมาก็ปรากฏว่าเห็น เจ๊เนเน่เมียหมวยสุดรักสุดบูชา พ่อตาแม่ยาย ลูกชายอายุ 9 ขวบ ลูกสาวอายุ 6 ขวบ และคนใช้อีก 1 คน ถูกกลุ่มโจรจำนวน 10 คน ใช้ปืนจี้แล้วบังคับ ให้ขึ้นรถไปเสียแล้ว เหลืออีก 2 คนถือปืนอยู่ บอกแจ้งข่าวกับนายมะห่ำว่าให้ปล้นธนาคารที่นายมะห่ำทำงานอยู่ตอนนี้ก่อนเที่ยงวัน แล้วให้เอาเงินไปไถ่ตัวคืน ถ้าไม่สำเร็จ ไม่ให้ความร่วมมือ พยายามติดตามเมีย หรือไปแจ้งความ ทุกคนในครอบครัวต้องตาย ทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ให้บอกว่าปล้นเสร็จจะติดต่อมาทางโทรศัพท์ ก่อนจะเรียกตะโกนบอกว่า “คัท” เรียกพรรคพวกอีก 4 คนเก็บสายไฟและอุปกรณ์ถ่ายหนัง แล้วขอบคุณเพื่อนบ้านแถวนั้นที่ให้ความร่วมมือ ต้องไปถ่ายทำต่อที่อื่น แถมบอกให้คอยดูข่าวประชาสัมพันธ์ตอนบ่ายๆด้วยแล้วก็ขึ้นรถตู้หนีหายไป คนข้างบ้านก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดสังเกต เพราะแถวนี้มีการถ่ายหนังบ่อย

 

การกระทำครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากพวกสมาชิกในกลุ่มสมาคมโจรได้ลองปล้นแบงค์นี้หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จจนอ่อนใจ ถูกนายมะห่ำขัดขวางการปล้นทุกครั้ง จึงเปลี่ยนแผนใหม่ จับตัวเมีย พ่อตา แม่ยาย เป็นตัวประกัน บังคับให้นายมะห่ำปล้นเงินมาให้ได้

พวกโจรรู้ว่า ถ้าจับเมียมาคนเดียวอาจไม่สำเร็จ เนื่องจาก เมียนายมะห่ำ ปากจัดและมีฤทธิ์มาก ลูกเล่น แพรวพราวไม่แพ้นายมะห่ำ และได้สืบรู้มาอีกว่าเมียนายมะห่ำมีจุดอ่อนอยู่ที่รักพ่อแม่ และขณะเดียวกันจุดอ่อนของนายมะห่ำคือรักและเคารพหวงแหนบูชาเทอดทูนเมียเหนือสิ่งอื่นใด

หากจับเมียมาคนเดียวเมียอาจไม่ให้ความร่วมมือ แต่ยังไม่หนำใจโจรเพราะว่าเพื่อให้พ่อตาแม่ยายนายมะห่ำซึ่งหลงหลานรักสองคนร่วมมือด้วยจึงจำเป็นต้องนำลูกของนายมะห่ำมาทั้งสองคนมาด้วย ส่วนคนใช้ที่ต้องเอามาด้วยอีกคนเพราะว่าไม่ต้องการให้เด็กสองคนมีปัญหาเพราะว่าทั้งสองคนติดคนใช้ยิ่งกว่าพ่อแม่และตายายของตัวเอง สรุปคือพามาทัวร์ตัวประกันทั้งครอบครัว

 

เวลานี้เหลืออีกเพียงห้านาทีเท่านั้นก็จะเป็นเวลาเที่ยงวัน นายมะห่ำครุ่นคิดมาตั้งแต่เช้าว่าจะแจ้งตำรวจ หรือ แจ้งบริษัทที่ตัวเองทำงาน หรือแจ้งให้ผู้จัดการธนาคารทราบ หรือจะไปตามพวกโจรซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน เป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว ความคิดวนเวียนอยู่อย่างนี้ ตัดสินใจไม่ได้สักที ในใจไม่ได้คิดเรื่องปล้นเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อเวลาจวนตัวมาถึงตอนนี้ เขาต้องตัดสินใจทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งเสียแล้ว

 

เขาเหลือบไปเห็นลูกค้าธนาคารคนหนึ่งลากกระเป๋าเป้ขนาดใหญ่ที่มีล้อเลื่อนกำลังยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ถอนเงิน เขาจึงเดินตรงไปที่ลูกค้าแล้วก็พูดกับลูกค้าคนนั้นว่า “ขอโทษครับขอผมดูกระเป๋าหน่อยครับ” พูดพลางก็หยิบพวกเอกสารเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวออกจากกระเป๋า ยังไม่ทันที่ลูกค้าจะได้พูดอะไรเนื่องจากกำลังงงว่านายมะห่ำกำลังทำอะไร นายมะห่ำก็ได้พูดขึ้นด้วยเสียงอันดังกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ได้ยินกันทั่วว่า “ทุกคนขอให้อยู่ในความสงบ นี่เป็นการปล้น
 

ฮา” ทุกคนในที่นั้นโดยเฉพาะพนักงานของธนาคารหัวเราะขึ้นก่อนแล้วคนอื่นๆหัวเราะตาม เข้าใจว่านายมะห่ำกำลังล้อเล่นอยู่ เพราะนายมะห่ำมักจะมีเรื่องตลกๆมาเล่าให้ขำกันเป็นประจำ
 

นายมะห่ำ รู้สึกหงุดหงิดจึงชักปืนพกออกจากซองปืนที่ติดกับเอวของตัวเองอยู่แล้วยิงขึ้นเพดาน 2 นัด พูดเสียงดุ “ทุกคนหมอบลงกับพื้นเดี๋ยวนี้” พูดเสร็จก็กวาดปืนชี้ไปที่ที่คนกำลังยืนอยู่ ทุกคนหมอบลงตามคำสั่ง รวมทั้งผู้จัดการธนาคารแห่งนี้ด้วย ท่านผู้จัดการเงยหน้ามองลอดแว่นตาขึ้นมามองหน้านายมะห่ำพลางพูดว่า

คุณมะห่ำ เอาจริงหรือครับนี่ ไม่น่าทำเลย
 

มะห่ำ โยนกระเป๋าให้พนักงานใส่เงินในกระเป๋าให้ หลังจากนั้นตัวเองก็กระโดดเข้าไปด้านในเคาน์เตอร์ คอยคุมอยู่อีกที พอเงินเต็มกระเป๋า

มะห่ำก็พูดกับผู้จัดการธนาคารซึ่งก้มหน้าหมอบอยู่กับพื้นว่า “ผู้จัดการครับ ผมขอโทษด้วย ผมมีความจำเป็นต้องทำ แต่ผมสัญญาว่า ผมจะนำเงินจำนวนนี้มาคืนให้ครบ
 

พูดเสร็จก็ลากกระเป๋าออกมาทางด้านหน้าประตูกระจก เสร็จแล้วก็ยิงปืนขู่ออกไปอีกสองนัด ก่อนจะวิ่งออกมาด้านหน้าธนาคารไปขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ของตัวเองขับออกมาจากธนาคารสักพักก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแรก ทะลุซอยนี้ ออกซอยนั้น เมื่อถึงซอยเปลี่ยวจึงหยุด แต่ยังไม่ทันหยุดดี ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น มะห่ำรับสาย มีเสียงมาตามสายพูดว่า “ทำดีมาก มีลูกน้องอยู่หน้าธนาคารรายงานมาเมื่อตะกี้ว่าแกได้เงินมาแล้ว ต่อไปให้แกเอาเงินไปส่งที่อ่อนละมัยซอย 71 กลางซอยจะมีตู้โทรศัพท์สาธารณะเรียงกันอยู่ 3 ตู้ ข้างตู้โทรศัพท์จะมีคนใส่หมวกกันน็อคสีขาวใส่เสื้อสีแดงนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์คอยรับเงินอยู่ ให้กระเป๋าใส่เงินไปได้เลย” พูดจบก็วางสายทันที

 

นายมะห่ำรีบซิ่งรถไปยังซอย 71 ทันที คิดว่าอย่างไรต้องส่งเงินให้ทัน ก่อนที่ตำรวจจะมาจับตัวไปเสียก่อน เมื่อมาถึงกลางซอย 71 มีตู้โทรศัพท์สาธารณะ 3 ตู้เรียงกัน ตามคำบอกเด๊ะ แล้วยังมีคนใส่เสื้อสีแดงมีหมวกกันน็อคอยู่บนมอเตอร์ไซด์ซึ่งมีที่วางใส่ของขนาดใหญ่อยู่เบาะหลังด้วย เขาทำท่าจะออกรถ มะห่ำรีบเอารถไปขวางข้างหน้าพูดว่า “น้องจะรีบไปไหน พี่มาช้าไปนิดเดียว” พูดพลางยื่นกระเป๋าใส่เงินให้ แถมยังรูดซิปให้ดูด้วย บอกกำชับว่า “เอ้านี่เงิน รับเอาไป อย่าทำหายล่ะ เงินเยอะด้วย” คนใส่หมวกกันน็อคสีขาวรับกระเป๋าไป ไม่พูดอะไร รีบขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปทันที มะห่ำมองตามไป ยังไม่ทันพ้นสายตา ก็มีเสียงเรียกจากด้านหลัง “พี่ผมมารับเงิน
 

มะห่ำหันหลังมองตาม ปรากฏว่ามีคนใส่หมวกันน็อคสีขาว เสื้อสีแดงอีกคนอยู่บนมอเตอร์ไซด์จอดอยู่ “เฮ้ย ให้ไปแล้วนั่นไง” มะห่ำชี้ไปทางคนที่รับเงินไป

นั่นมันคนส่งพิซซ่านี่ครับ” สมุนโจรตัวจริงชื่อดุ๊กดิ๊ก ตกใจอุทานขึ้น
 

อ้าว แล้วเสือกใส่ชุดเหมือนคนส่งพิซซ่าทำไม โอ๊ย เซ็ง” พอรู้ตัวว่าให้เงินไปผิดคน นายมะห่ำก็เร่งเครื่องบิดเต็มที่ตามเด็กส่งพิซซ่าไปทันที เห็นรถขับเลี้ยวซ้ายออกจากซอย มะห่ำตามไปติดติด พอถึงปากซอย โอ้มายก็อด นายมะห่ำแทบจะเป็นลม เนื่องจากพบว่ามีรถแมงกะไซด์ส่งพิซซ่าขับไปขี่มาอยู่ประมาณ 20 คัน ไม่รู้ว่าคันไหน 
 

แต่ก็นับว่าพระเจ้ายังเข้าข้างนายมะห่ำอยู่ เพราะขณะที่กำลังจะถอดใจก็บังเอิญเห็นเด็กส่งพิซซ่าคนหนึ่ง มีพิรุธหันหลังกลับมามองเห็นมะห่ำแล้วตกใจทำกล่องพิซซ่าหล่นและรีบบิดเร่งความเร็วหนี มะห่ำตามเงินคืนกลับมาได้ตบหัวคนส่งพิซซ่าไปหนึ่งทีบอกว่า “ทีหลังอย่ารับของที่ไม่ใช่ของของตัว
 

เด็กพิซซ่าท้วงว่า “ก็พี่เป็นคนให้ผมเอง ไม่รับก็ไม่ได้พี่ขวางรถผมไว้แล้วก็ยื่นเงินให้ผม บอกว่าให้รักษาให้ดี แล้วผมผิดตรงไหนละครับ
 

เออ พี่ผิดเอง งั้นพี่ขอโทษ ให้ตบหัวคืนหนึ่งที” มะห่ำพูดพลาง ก้มหัวให้ตบ แถมพูดว่า “เร็วๆ ด้วยพี่มีธุระต้องรีบไป เร็วซี เดี๋ยวปั๊ด
 

ครับพี่” พูดแล้วก็หลับหูหลับตาตบหัวไปทีหนึ่ง ดัง “ผั่ว
 

มะห่ำน้ำตาไหล บอกว่า “ขอบคุณ ไปล่ะ” แล้วก็ออกรถพลางบ่นกับตัวเองว่า “มันตบซะแรงเลย เจ็บจริงจริง

 

บทนำ

อ่านตอนต่อไป

 

Tag: เรียนออสเตรเลีย,ศึกษาออสเตรเลีย,เรียนต่อออสเตรเลีย,ศึกษาต่อออสเตรเลีย,เรียนต่อต่างประเทศ,ศึกษาต่อต่างประเทศ,ประเทศออสเตรเลีย,ออสเตรเลีย,ไปออสเตรเลีย,ศูนย์แนะแนวการศึกษา,แนะแนวการศึกษา,ให้ข้อมูลการศึกษาต่อ,เรียนและทำงาน,เรียนภาษา,เพลงสากล,สมัครเรียนต่อออสเตรเลีย,สมัครเรียนต่อ,เรียนและทำงานในออสเตรเลีย,เรียนและทำงานในต่างประเทศ,หางานที่ออสเตรเลีย,เรียนต่อปริญญาตรี,เรียนต่อปริญญาโท,จัดหาหลักสูตร,คำตอบศึกษาต่อ,งานสัมมนาศึกษาต่อต่างประเทศ,นิทรรศการศึกษาต่อต่างประเทศ,สถาบันการศึกษาออสเตรเลีย,มหาวิทยาลัยออสเตรเลีย,ปริญญาตรี,ปริญญาโท,ปริญญาเอก,อนุปริญญา,ปริญญาออสเตรเลีย,ประกาศนียบัตรออสเตรเลีย,โรงเรียนในออสเตรเลีย,อุดมศึกษาออสเตรเลีย,หลักสูตรออสเตรเลีย,ระบบการศึกษาออสเตรเลีย,ใช้ชีวิตออสเตรเลีย,คำถามเรียนต่อออสเตรเลีย,ขอวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย,อยู่ถาวรออสเตรเลีย,คนไทยในออสเตรเลีย,นักเรียนไทยในออสเตรเลีย,เรียนต่อที่ไหนดี,การศึกษาออสเตรเลีย,การเรียนออสเตรเลีย,หางานร้านอาหารไทยออสเตรเลีย,ร้านอาหารไทยในออสเตรเลีย,ทำงานร้านอาหารไทย,ร้านอาหารไทย,เรียนต่อ,ศึกษาต่อ,ทำงาน,หางาน,อนาคตดี,อนาคตที่ดี,เลือกอาชีพ,ช้อปปิ้ง,ซึ้อของ,ตัวอย่างภาพยนตร์,ความสำเร็จในหน้าที่การงาน,ทำงานทั่วโลก,ภาษาอังกฤษออสเตรเลีย,เรียนภาษาออสเตรเลีย,บริหารออสเตรเลีย,ธุรกิจออสเตรเลีย,คอมพิวเตอร์ออสเตรเลีย,พยาบาลออสเตรเลีย,ที่พักออสเตรเลีย,เดินทางออสเตรเลีย,เรียนเมล์เบิร์น,ศึกษาเมล์เบิร์น,เรียนต่อเมล์เบิร์น,ศึกษาต่อเมล์เบิร์น,เมล์เบิร์น,Study in Australia,Education in Australia,Study in Melbourne,Melbourne courses,Melbourne

© Contact Qualified Education Agent Counsellor
9A Swallow Street, Werribee, Victoria 3030 Australia
Tel. +613-8714-5089 , +614-0541-0152

Copyright 2010 www.australiastudyplace.com Allright reserved
Best view on Internet Explorer version 6.0 or 7.0up