ตอนที่ 26 ออกทีวี
 

ในบ่ายวันนั้นมีเสียงกรี๊ดดังขึ้นตลอดเวลาเป็นระยะๆ ในห้องส่งของรายการ “ที่นี่ตีสนิท” ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของตึกศูนย์การค้าขนาดใหญ่เขตบางกะปอมในเมืองถุงเงิน เสียงกรี๊ดค่อยๆเงียบลงเมื่อพิธีกรแด๊นเซอร์ผิวขาวสาวสวยหุ่นดีที่กำลังเต้นทำท่าเริ่มจะพูด
 

พิธีกรแด๊นเซอร์ใส่ชุดคอกระเช้าและโจงกระเบนเต้นซักพัก พอจังหวะดนตรีหยุดก็พูดขึ้นว่า “สวัสดีค่ะ ที่นี่รายการตีสนิท เชิญพบกับพิธีกรสุดหล่อ และสุดสวย คุณวิทยา คุณลอยและคุณนิ้งค่ะ” เสียงปรบมือของผู้ชมในห้องส่งดังขึ้นอีกครั้งแล้วก็ค่อยๆเงียบลง

“สวัสดีครับท่านผู้ชม ผมวิทยา สุนทรคุณากุล คุณนิ้ง วรนันท์ และคุณลอย เพลินลำ วันนี้พวกเราขออนุญาตท่านผู้ชมนำเสนอ ช่วงเวลาชวนสนทนากันเต็มเวลาเลยครับ ช่วงเวลาอื่นเช่นช่วงดันซะดัง และเธอคือใครไม่รู้จัก ต้องขอยกยอดเป็นสัปดาห์หน้านะครับเพราะว่าเรื่องราวที่จะนำเสนอในวันนี้มันช่างเหลือเชื่อและอยู่ในความสนใจติดตามของผู้ชมทั่วประเทศและก็ทั่วโลกเลยก็ว่าได้
 

แขกรับเชิญของเราในวันนี้ทำให้ผู้ชมในห้องส่งเต็มแน่นไปหมดเลยครับ ลุกลามไปถึงหน้าห้องส่ง และรอบๆตึกของสถานี

ทุกท่านคงได้ทราบข่าวการปล้นธนาคารชราต้อเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นข่าวครึกโครมโด่งดังไปทั่วโลก เพราะว่าผู้ที่ทำการปล้นอย่างอุกอาจคือพนักงานรักษาความปลอดภัยของธนาคารเอง แต่เรื่องก็ไม่หยุดเพียงแค่นั้น กลับกลายเป็นว่าเบื้องหลังการปล้นครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความจำเป็น แล้วยิ่งไปกว่านั้น การติดตามจับโจรตัวจริงทั้งกลุ่มบวกกับการบุกเข้าช่วยเหลือตัวประกัน ยิ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเข้าไปอีก ขอเชิญท่านผู้ชมพบกับ คุณมะห่ำ มักโจ๊ก คุณอุชุกร ลองนมสด  คุณจารุกร สอนไข่นุ้ย และคุณรวินันท์ มันเหมือนฝัน แขกรับเชิญของเราในวันนี้ครับ” ทุกคนปรบมือรวมทั้งแขกรับเชิญทุกคนก็ปรบมือด้วย แขกรับเชิญของเรารู้สึกเขินเล็กน้อย ไม่เคยมาออกทีวีรายการวาไรตี้โชว์มาก่อน

สามหนุ่มนักเดินทางอยู่ในชุดกางเกงยีนและใส่เสื้อเชิร์ตลายสก๊อตเหมือนกันแต่เสื้อคนละสี อุชุกรสีเขียว จารุกรสีน้ำตาล รวินันท์สีน้ำเงิน ส่วนนายมะห่ำของเราจัดเต็มอยู่ในชุดคล้ายไอ้มดแดงบวกกัปตันอเมริกา คือมีรองเท้าบูทสีแดง กางเกงรัดรูปสีดำ มีหัวเข็มขัดใหญ่ขนาดใส่กล่องข้าวได้ ใส่เสื้อยืดรัดรูปสีฟ้าที่ด้านหน้าทำให้ดูเหมือนมีกล้ามอกและหน้าท้อง ที่เอวมีกระเป๋าหนังเล็กๆข้างละสองใบติดกับเข็มขัด ใส่ถุงมือสีขาว และผ้าพันคอสีแดง

คุณวิทยาพิธีกรผิวขาววัยกลางคนหน้าตาใจดีดันแว่นตาขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “ก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์ต้องขอเตือนท่านผู้ชมนะครับว่า รายการวันนี้ต้องใช้วิจารณญานในการรับชมเป็นพิเศษ อย่าเพิ่งเชื่อในเรื่องที่แขกรับเชิญของเราในวันนี้จะบอก เพราะว่าหลายๆ เรื่องยังไม่ได้รับการพิสูจน์ยืนยัน เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็ขอเริ่มการสัมภาษณ์เลย ตอนนี้ขอเชิญคุณมะห่ำก่อนนะครับ ไม่ทราบว่ารู้สึกอย่างไรในเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการปล้นครั้งนี้ครับ”
 

นายมะห่ำกระแอม 2 ทีก่อนจะตอบว่า “ครับ ก็รู้สึกหลายอย่าง ทีแรกก็เป็นห่วงครอบครัว หลังจากนั้นก็รู้สึกผิดที่ปล้น แล้วก็ตื่นเต้นมากตอนที่หนีตำรวจ หลังจากนั้นก็รู้สึกเหมือนเทวดามาโปรดเมื่อได้พบกับ 3 คนนี้ จนสามารถช่วยครอบครัวของผมออกมาได้ ตอนนี้ก็รู้สึกดีใจและโล่งใจ เพราะว่าเงินก็ได้คืนมาเกือบครบ ขาดไปสองพันรูเป๊ะเพราะไปซื้อโจ๊กกิน และเป็นค่าแท็กซี่แต่ผู้จัดการแบงค์ก็ไม่ว่าอะไร เขาบอกว่าหักจากเงินเดือนได้”
 

คุณวิทยาถามนายมะห่ำต่อ “ไหนคุณมะห่ำลองอธิบายเพิ่มเติมหน่อยนะครับว่า ทำไมถึงรู้สึกว่าหนุ่มหล่อทั้ง 3 คนนี้ เหมือนเทวดามาโปรด”
 

มะห่ำตอบ “เห็นทีแรกก็ไม่รู้สึกหรอกครับ ครั้งแรก 3 คนนี้เขาถูกใส่กุญแจมืออยู่เหมือนกัน ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ตอนนั้นรู้สึกกลัวมากกว่า กลัวว่าจะช่วยครอบครัวไม่ได้ คุณอุชุกรเป็นคนจับผมให้ตำรวจ แต่ทั้ง 3 คนนี่แหละครับ เป็นคนช่วยผมหนีตำรวจไปช่วยจับโจรตัวจริงและช่วยครอบครัวของผมออกมา”
 

คุณวิทยาหันไปทักคนที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดของผู้ชมในห้องส่ง “วันนี้ครอบครัวของคุณมะห่ำก็มาด้วยนะครับ ขอกล้องหน่อยครับ มากันทั้งครอบครัวเลยน่ารักมาก ทั้งคุณเนเน่ ภรรยาคุณมะห่ำ คุณพ่อตาปัญญาและคุณแม่ยายเข็มก็มา แหม น้องโน๊ตและน้องอ้วนลูกคุณมะห่ำโบกมือใหญ่เลย และก็ท่านสุดท้ายน้องบอลลูนพี่เลี้ยงของน้องโน๊ตและน้องอ้วน” กล้องแพนไปจับภาพสมาชิกทุกคนในครอบครัวนายมะห่ำเห็นยิ้มหน้าบานกันทุกคน
 

คุณวิทยาทำหน้าที่ต่อ ผู้ช่วยพิธีกรวันนี้ยังไม่มีโอกาสพูดเลยสักคำ “เนื่องจากเวลาเรามีจำกัด แต่เรื่องราวที่ท่านผู้ชมอยากรู้อยากทราบมีมากเหลือเกิน ดังนั้นเราจะเข้าประเด็นคำถาม ที่อยู่ในความสนใจของท่านผู้ชมเลยนะครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณทั้ง 3 คน สถานภาพเป็นอย่างไรครับ ทราบว่าเวลานี้ยังถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองผิดกฏหมาย จริงหรือไม่ครับ”
 

“จริงครับ” จารุกรเป็นคนตอบคำถามคนแรก “พวกเรามาจากอนาคต แต่ตอนนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ เราก็ไม่ได้เอาหลักฐานอะไรมา เวลานี้พวกเราก็ถูกกักบริเวณ แต่เนื่องจากทำความดีไว้ พวกเราจะไปไหนมาไหนก็ได้แต่ว่า จะต้องมีตำรวจติดตาม”
 

“คุณทั้ง 3 คน จะพิสูจน์อย่างไรว่า มาจากอนาคตจริง” คุณวิทยาถามต่อ
 

จารุกร “คงจะยากครับ เพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือที่นี่ยังไม่ก้าวหน้าพอ ต้องใช้เครื่องสแกนคุณภาพจิตใจก็จะทราบได้ทันที เวลานี้เครื่องมือที่มีก็มีเพียงแค่เครื่องจับเท็จซึ่งก็ยังนับว่าล้าหลังอยู่มาก ต้องพัฒนาระบบควอนตัมคอมพิวเตอร์ จนสามารถนำเครื่องมาต่อพ่วงกับร่างกายมนุษย์และเข้าถึงส่วนอะตอมของเซลล์สมองหรือเซลล์เส้นประสาทมาใช้ได้ก่อน และขั้นต่อไปจะสามารถนำพลังงานรูปแบบอื่นๆมาใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์

ส่วนผู้ที่มีพลังจิตสามารถหยั่งรู้ความจริงก็เป็นที่น่าเสียดาย เพราะว่าไม่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์ สรุปว่าพิสูจน์ยากเหมือนกันครับ”
 

“แล้วการที่คุณทั้ง 3 คนมาในยุคปัจจุบันนี้ มีวัตถุประสงค์อะไรครับ” คุณวิทยาถาม
 

รวินันท์ตอบบ้าง “เราคงจะบอกในที่นี้ไม่ได้หมด แต่ที่จะบอกได้คือ เราตั้งใจไปที่มาลัยแลนด์เพื่อขัดขวางการปล้นสนามบิน แต่เรามาช้าหนึ่งวันและก็มาลงผิดที่ด้วย พวกเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม แต่การเดินทางข้ามเวลา สิ่งนี้มักจะเกิดขึ้นได้เสมอๆ แต่เราก็พยายามที่จะแก้ไข พัฒนา ปรับปรุง ให้การเดินทางเป็นไปอย่างแม่นยำราบรื่นมากขึ้นไปเรื่อยๆ สมัย 20 ปีก่อนเรายังไม่สามารถกำหนดเวลาและสถานที่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่เดี๋ยวนี้เราเดินทางคลาดเคลื่อนไม่เกิน2วัน”
 

วิทยา “ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าอนาคตวิทยาศาตร์จะก้าวหน้าไปไกลถึงเพียงนั้น  แล้วทำไมต้องขัดขวางการปล้นครั้งนี้ด้วยล่ะครับ”
 

รวินันท์ “เพราะว่าเงินที่ได้จะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนการก่อการร้ายครับ”
 

วิทยา “งั้นทำไมไม่ไปหยุดที่ต้นตอ คือหยุดพวกผู้ก่อการร้ายเลยละครับ”
 

รวินันท์ “คือเราก็ไม่ทราบว่าพวกก่อการร้ายนี่มีใครบ้างซิครับ อันดับแรกที่เราต้องทำคือต้องตามตัวคนร้ายที่ปล้นสนามบินก่อนแล้วค่อยตามรอยไปสาวถึงตัวการใหญ่ ถ้าหากเราทำสำเร็จครั้งนี้จะมีผู้รอดชีวิตอย่างน้อย 300,000 คน รวมไปถึงนักวิทยาศาตร์คนสำคัญผู้ซึ่งกำลังพัฒนาสารต้านเรือนกระจกที่ต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ แล้วถ้าสารต้านภาวะเรือนกระจกพัฒนาเร็วก็จะมีผู้รอดชีวิตจากภัยธรรมชาติอีกนับล้าน”
 

วิทยา “งานที่คุณทั้งสามทำก็เป็นงานเสี่ยงอันตรายมากซิครับ ไม่กลัวบ้างหรือครับ”
 

รวินันท์ “ไม่กลัวหรอกครับ พวกเราได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี แต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือ สิ่งที่พวกเรากำลังจะทำให้อดีตเปลี่ยนแปลงบางทีอาจไม่เป็นผลดีต่ออนาคตก็ได้ ยกตัวอย่างการมาครั้งนี้ก็เพื่อช่วยชีวิตประชากรโลกให้ได้มากที่สุด แต่เราก็ไม่ทราบว่าอนาคตประชากรโลกหากมีจำนวนมากจะรักกันสามัคคีกันเหมือนกับโลกที่เราจากมาหรือเปล่า อาจจะฆ่ากันเองเพื่อผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมเหมือนอย่างเวลานี้”
 

วิทยา “อย่างนั้น ถ้าเกิดผลที่ไม่ดีเกิดขึ้น แล้วจะทำอย่างไรกันล่ะครับ”
 

รวินันท์ “ไม่ว่าพวกเราที่นี่จะทำอะไรไป ทางโน้น เขาก็จะวิเคราะห์ประเมินผลกันอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีอะไรไม่ดีกระทบกระเทือนไปถึงอนาคตโน่น เขาก็ต้องส่งคนมาแก้ไข หรือไม่ก็พวกเรา 3 คน นี่แหละครับต้องกลับมาแก้ไขอีก”
 

วิทยา “หมายความว่า ปัจจุบันที่ผมกับคุณนั่งคุยกันอยู่นี่ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอย่างนั้นหรือครับ”
 

รวินันท์ “ถูกต้องแล้วครับ แต่ส่วนใหญ่จะเหมือนเดิม มีบางเรื่องเท่านั้นที่เปลี่ยนไป นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา มักจะรู้สึกเหมือนกับว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว”
 

วิทยา “คุณทั้ง 3 คน มีกำหนดกลับไหมครับ”
 

รวินันท์ “มีซิครับ พอเราช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นให้รอดจนเปิดเผยวิธีแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนได้ทันเหตุการณ์แล้ว พวกเราก็กลับ”
 

วิทยา “แล้วจะกลับกันอย่างไรครับ”
 

รวินันท์ “ทางโน้นเขาก็ใช้เครื่องที่ส่งเรามานี้แหละครับ ใช้กระบวนการย้อนกลับดึงเรากลับไป”
 

วิทยา “ทางโน้นเขาจะรู้ไหมครับว่าพวกคุณคุณอยู่ที่ไหน”
 

รวินันท์ “รู้สิครับ พวกเราออกทีวีบ่อยขนาดนี้ พวกเขาต้องรู้แน่นอน”
 

วิทยา “พอจะบอกได้ไหมครับว่า นักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นเป็นใคร ชื่ออะไร และอยู่ที่ไหน”
 

รวินันท์ “ที่จริงเราก็ยังไม่รู้หรอกครับว่าท่านอยู่ที่ไหน พวกเราจะต้องไขปริศนาเกี่ยวกับรหัสลับ 6 ตัวให้ได้ก่อนครับ ถึงจะพาไปถึงตัวท่านได้”
 

วิทยา “เอาละครับยังไม่รู้ก็ไม่เป็นไรครับ แต่รหัส 6 ตัวนี่มีอะไรบ้างครับ เผื่อว่าท่านผู้ชมที่อยู่ทางบ้านอาจทราบคำตอบ"
 

รวินันท์ "ครับ รหัสทั้ง 6 ตัวก็มี รหัสตัวแรกก็คือ [อะไร] รหัสตัวที่สองคือ [เพี้ยน] รหัสตัวที่สามคือ [ผู้หญิง] รหัสตัวที่สี่คือ [สั้น] รหัสตัวที่ห้าคือ [สุภาพ] และรหัสตัวสุดท้ายคือ [ภาษา]"
 

วิทยา "เอาละครับ ผมจะทวนอีกครั้งนะครับ รหัสตัวแรกก็คือ [อะไร] รหัสตัวที่สองคือ [เพี้ยน] รหัสตัวที่สามคือ [ผู้หญิง] รหัสตัวที่สี่คือ [สั้น] รหัสตัวที่ห้าคือ [สุภาพ] และรหัสตัวสุดท้ายคือ [ภาษา] ท่านผู้ชมท่านใดสามารถไขรหัสปริศนานี้ได้ ส่งคำตอบมาที่รายการของเรานะครับ  ผู้ที่ตอบถูกจะได้พักฟรีห้องพักวีไอพีโรงพยาบาลบำรุงเลิศฟ้า 7 วัน 7 คืน รวมอาหาร 3 มื้อ แถมบัตรส่วนลดค่ารักษาพยาบาลตลอดชีพ ช่วงนี้มีโปรโมชั่น ค่ารักษาเกินหนึ่งแสนขึ้นไปแถมผ่าตัดไส้ติ่งฟรี จองด่วนนะครับระยะโปรโมชั่นมีเวลาจำกัด  ขอขอบคุณโรงพยาบาลบำรุงเลิศฟ้าผู้สนับสนุนรายการของเราที่กรุณาเอื้อเฟื้อรางวัลให้กับรายการของเรานะครับ อยู่จนลืมเจ็บต้องไปบำรุงเลิศฟ้าที่นี่ที่เดียวนะครับ"  วิทยาหยุดขยับแว่นนิดนึงแล้วก็พูดต่อ "ขอส่งไมค์ต่อให้คุณลอยครับ ขอเชิญคุณลอยถามแขกรับเชิญของเราบ้างครับ"

บทนำ

อ่านตอนต่อไป